ประสบการณ์ผู้เข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ปี 2560-63
ประสบการณ์การเข้าอบรมพัฒนาจิต ณ วัดวะภูแก้ว ของข้าราชการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รุ่นที่ 1 / 2564
ขอเถอะครับเพื่อนๆ อย่ารอกราบพ่อแม่ตอนท่านอยู่ในโลง ♥♥ ผมเคยคิดว่าพวกเรามาทำไม แค่มานั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังเทศน์ ฟังธรรม ที่คิดว่าไร้สาระแต่เปล่าเลย ทำสมาธิแล้วสงบดีเหมือนกัน ส่วนเรื่องพระคุณพ่อแม่ ที่เคยคิดมันสำคัญด้วยหรือ พ่อแม่บ่นเราได้ เราบ่นพ่อแม่บ้างไม่ได้หรือ ผมเคยคิดว่าที่พ่อแม่บ่นเพราะต้องการแกล้งเรา แต่ไม่ใช่! ท่านบ่นเพราะท่านเหนื่อย ผมถามอีกท่านว่าเหนื่อยอะไร ทำงานบ้านแค่นี้ แต่ความคิดผมผิดมาตลอด พอมาฟังบรรยายเรื่องพระคุณพ่อแม่ ผมจึงนึกถึงพระคุณท่าน แม่อุ้มท้องเรามาตั้ง 9 เดือน แม่ไม่บ่นสักคำ พ่อต้องออกไปทำงานทุกวันตากแดดหน้าดำทำงานหาเงินเพื่อส่งเสียเราพ่อไม่เคยบ่น แต่ทำไมเรามาเรียน 9 ชั่วโมงต่อวัน มาอบรม 4 วัน 3 คืนแค่นี้เราจะบ่นเหนื่อยไม่ได้ เราเอาแต่เที่ยวเฮฮา ติดสารเสพติด ติดผู้หญิง และห่วงผู้หญิงที่ไม่ได้คลอดเรามา ลืมแม่ที่คอยเช็ดตัวให้ตอนเราป่วยไข้ แต่เวลาแม่ป่วยเราไม่เคยดูแลท่านเลย ขอเถอะครับเพื่อนๆ ห่วงแม่พ่อ กราบท่านตอนมีชีวิตอยู่ ดีกว่าจุดธูปบอก "แม่ครับ พ่อครับ ผมขอโทษ" ในตอนที่ท่านอยู่ในโลง ณัฐวุฒ โชติกลาง ม.4/2 โรงเรียนท่าช้างราษฏร์บำรุง เลิกงมงาย ไม่เชื่อไสยศาสตร์อีกแล้ว ♥♥ ผมมีความชอบในเรื่องพุทธศาสนามาตั้งแต่ยังเด็ก ป.1-2 เริ่มจากการได้ไปวัดและได้จดจำหน้าองค์พระพุทธรูปมาวาดที่บ้านและที่โรงเรียน พอโตมาก็เริ่มชอบสวดมนต์ ทำสมาธิ แต่ก็ยังไม่รอบรู้สักเท่าไรนัก หลงผิดคิดว่าการนั่งสมาธิคือการได้ฌานได้เห็น สวรรค์ นรก ทำด้วยความอยาก แต่พอมาที่วัดวะภูแก้วก็ได้เข้าใจเรื่องสมาธิที่ถูกต้องรู้สภาพความเป็นจริงของชีวิต เข้าใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามากขึ้น ไม่หลงผิด ไม่งมงาย ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ขอบคุณ ดร.ดาราวรรณ ก่อนมาก็ได้ติดตามท่านในยูทูป ผมก็ถูกใจ ชอบมาก และจะนำไปบอกให้ผู้ที่สนใจพระพุทธศาสนา ผมอยากเป็นครูสอนสังคมตามเจตนาที่วางไว้ การมาวัดวะภูแก้วครั้งนี้ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดต่างๆ ที่หลงผิดไปให้ถูกต้อง ผมมีกำลังใจจากพระอริยสงฆ์ เวลาก่อนนั่งจะจ้องมองภาพพระอริยสงฆ์ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่พุธ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดจนรูปอื่นๆ ต่อไปผมจะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จะมีเหตุผล ไม่เชื่อในไสยศาสตร์ เพราะเป็นวิชาหลับใหล ขัดต่อหลักคำสอนของพุทธศาสนา และจะนำคำสอนขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าไปใช้ในชีวิตประจำวัน สาธุ อนุโมทนามิ กับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ผมอยากเชิญชวนให้คนทำความดี อย่าทำความชั่วเลย สมัยนี้ยุคโลกาภิวัฒน์ เจริญแต่วัตถุ แต่ไม่เจริญจิตใจ สิ่งยั่วยุมันเยอะ กิเลสเยอะ วัดก็ไม่ค่อยเข้า ศีลก็ไม่ค่อยมี บาปก็ไม่ค่อยกลัว ควรเกิดมาเพื่อพัฒนาตนเอง โชคดีแค่ไหนที่ค้นพบพระพุทธศาสนา จึงไม่มีภูมิธรรม คนเราทำดีได้ทุกเมื่อทุกเวลาและทุกสถานที่ ความดีทำยากแต่จำเป็นต้องทำ มิฉะนั้นความชั่วซึ่งทำง่ายจะเข้ามาแทนที่ตามคำสอนของพ่อหลวง ร.๙ มหาราชธรรมราชา การปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าก็เหมือนการทำข้อสอบ ไม่รู้จักอ่านหนังสือ ค้นคว้า ทดลอง ก็สอบไม่ผ่าน แต่ถ้ารู้จักอ่าน ปฏิบัติ อดทน ขยัน ก็สอบผ่าน จึงอยากชี้แนะเพื่อเป็นแนวทาง กิตติภัฏ ตุมยะกา ม.4/2 ร.ร.ละหานทรายวิทยา อยากได้เวลาเพิ่ม ♥ ตั้งแต่ได้ยินคำว่า ต้องเข้าค่ายธรรมะ ความคิดผุดขึ้นมาเต็มหัวว่าไม่อยากไปๆๆ แต่แล้วมันก็ไม่สามารถทำอย่างที่ใจต้องการได้ ครูบอกว่าใครไม่ไปต้องซ่อมที่โรงเรียนคนเดียว หนูถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วก็พูดในใจว่าไปก็ไป พอมาถึง ณ วัดวะภูแก้ว ได้มานั่งฟังเรื่องราวต่างๆ ทั้งผลกรรมทั้งเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เชื่อ แต่ก็ยังน่าเบื่อเพราะต้องนั่งนิ่งๆ ฟัง พอผู้บรรยายให้นั่งสมาธิ 30 นาที คือ หนูเป็นคนที่นั่งสมาธิได้แค่ 10-20 นาที แต่ได้นั่งตั้ง 30 นาที รู้สึกว่าตายๆๆ พอได้นั่งก็เริ่มปล่อยวางทำให้สงบ พูดกับตัวเองว่า อดทนเดี๋ยวเวลาก็ผ่านไป แล้วก็ตั้งจิตท่องพุทโธๆๆ ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าใจเริ่มสงบแล้วก็พูดกับตัวเองว่า เฮ้ย! เราก็ทำได้ จากเป็นเด็กที่ไม่ชอบการนั่งสมาธิ ตอนนี้กลายเป็นเด็กที่ชอบนั่งสมาธิชะงั้น เวลานั่งก็จะรู้สึกสบายๆ จนถึงตอนนี้ยังเสียดายที่ครูบอกว่า ครั้งสุดท้ายแล้วตั้งใจแค่ 15 นาที หนูรู้สึกว่ามันน้อยมาก หนูอยากได้เวลาเพิ่ม หนูคิดว่าวัดวะภูแก้วก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เวลา 3 คืนผ่านไปไวเหมือนโกหก กลับไปถึงบ้านหนูสัญญาว่าหนูจะดีกับคุณพ่อผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์และจำนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้ในชีวิตประจำวัน หนูรักวัดวะภูแก้ว หนูจะไม่มีวันลืมสถาบันที่ดีแบบนี้แน่ และจะจดจำคำสอนที่ว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ถ้ายังไม่พิสูจน์ กฤติยาภรณ์ นวลมิตร ม.4/2 รร.ร่วมจิตต์วิทยา การอบรมจิตเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ♥♥ หนูเคยไปอบรมมาหลายที่มากๆ โดยเฉพาะขึ้น ม.4 ช่วงปิดเทอมหนูได้มีโอกาสไปอบรมที่ กทม. 3 วัน อบรมดีมากๆ ทุกที่สอนให้คนเป็นคนดี หนูก็นำคำสอนนั้นมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันให้เป็นคนดีในระดับหนึ่ง แต่หนูประทับใจที่นี่มากๆ ก็คือ “เรื่องการพัฒนาจิต” เพราะการอบรมที่อื่นไม่มีเรื่องการพัฒนาจิตเลย เรื่องจิตเป็นที่สำคัญมากๆ และหนูก็ได้มาเจอที่นี่
ต้องขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้หนูมาเจอที่นี่ ถึงแม้ก่อนมาเมื่อได้ยินว่าอบรม 3 คืน 4 วัน หนูตกใจมาก “เข้าค่ายอะไรกันตั้ง 3 คืน” รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากมา แต่พอเอามาคิดถึงก็คิดว่า “เอาวะ! ไหนๆ ก็ต้องไปอยู่ดี เราก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ไว้เอามาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน” จริงๆ ในใจก็คิดว่า “ที่ไหนๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่พอมาที่นี่ในเวลา 3 คืน หนูได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องจิต ซึ่งหนูเป็นคนที่ค่อนข้างฟุ้งซ่าน แต่ที่นี่ทำให้หนูมีสติมากขึ้น รู้กฎแห่งกรรมเพิ่มขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น หนูจะนำการมีสติ สมาธิ ไปใช้กับหลายๆ เรื่อง ขอบคุณมากๆ ค่ะ ดอกอ้อ แก่นลา ม.4/1 รร.ครบุรี เจ๋งสุด! คือพุทธศาสนา ♥♥ เมื่อก่อนหนูไม่เคยเชื่อในศาสนาพุทธเลย เพราะดูตามข่าวแล้วรู้สึกว่า “ทำไมศาสนาพุทธจึงเสื่อมจัง” มันทำให้หนูคิดไม่อยากนับถือศาสนาอะไรทั้งนั้นเพราะหนูเชื่อในตนเองว่าชีวิตเหมือนเกม เราก็แค่เล่นให้สมบทบาทพอใกล้จบเราก็ตายไม่มีการเริ่มใหม่ “Game Over” แต่ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนเมื่อมาวัดวะภูแก้ว ดร.ดาราวรรณพูดเกี่ยวกับศาสนาหลายๆ อย่าง จนความคิดหนูเริ่มเปลี่ยน คือรู้สึกว่าเฮ้ย! ศาสนาพุทธน่าทึ่งมากๆ ขนาดนี้เลยหรือ หนูก็อาจมีข้อสงสัยบางอย่างแต่ยังไงก็คิดตามว่าศาสนาพุทธนี่แหละเจ๋งที่สุด แต่หนูก็ยังไม่เชื่อเต็ม 100% เพราะหนูไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ หนูจะเป็นคนดีของสังคม หนูต้องตั้งใจเรียนจะเดินทางสายกลางตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ พัณณิดา ศรีดี ม.4 รร.ครบุรี สิ่งที่ไม่เคยทำได้ก็มาทำได้ที่นี่ ♥ ทันทีที่คุณครูบอกข้าพเจ้าว่าต้องไปวัด ในความรู้สึกนึกคิดตอนนั้น...อีกแล้วหรือ ต้องไปจริงๆ หรือ จะต้องมานั่งสมาธินานๆ ต้องทนปวดขาอีกแล้ว ที่คิดแบบนี้เพราะจากประสบการณ์การเข้าค่ายที่ผ่านมาข้าพเจ้าไม่เคยนั่งสมาธิได้เลย เวลาที่พระท่านให้นั่งก็นั่งพอให้เสร็จๆ ไป ไม่ได้อะไร แต่การมาเข้าค่ายที่วัดวะภูแก้วครั้งนี้ ที่นี่ทำให้ข้าพเจ้าทำอะไรที่ข้าพเจ้าไม่เคยทำได้เลยสำเร็จผล ที่วัดวะภูแก้วสอนไม่เหมือนที่อื่น ที่นี่สอนเข้าใจ ทั้งในเรื่องการเรียนและทางธรรม ที่นี่เป็นที่แรกที่ข้าพเจ้านั่งสมาธิได้นานที่สุด และรู้ซึ้งถึงพระคุณพ่อแม่มากที่สุด ในตอนบรรยายพระคุณพ่อแม่ทำให้ข้าพเจ้าน้ำตาไหล คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ขึ้นมา ข้าพเจ้าไม่เคยบอกรักพ่อและแม่ และไม่มีโอกาสได้บอกรักพ่ออีกแล้ว ข้าพเจ้าคิดถึงพ่อมาก อยากบอกรัก อยากกอดพ่อ แต่สิ่งที่ทำได้คือ ได้แต่เจริญภาวนาคิดถึงหน้าพ่อแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พ่อ ส่วนแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ข้าพเจ้าตั้งใจเลยว่ากลับไปจะไปบอกรักแม่ จะไม่ทำให้แม่ลำบากใจ จะตั้งใจเรียนและทำให้แม่ภูมิใจว่าลูกคนที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ไม่ดีคนนี้ จะทำให้แม่สบายให้ได้ พรรณภา หลักสุโพธิ์ ม.6/1 รร.บัวลาย คิดได้ในทุกๆ เรื่อง ถ้าพูดถึงคำว่า “เข้าค่ายธรรมะ” ใครๆ ก็คงไม่ชอบ แต่เมื่อได้มาเป็นเวลาเพียงแค่ 3 คืน 4 วัน เป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่มีความหมายมากมายต่อตัวเอง จนทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างมีค่า จากการอบรมทำให้ตัวเองรู้สึกคิดได้มากขึ้น รู้จักคำว่า “ผู้มีพระคุณ” รู้จักคำว่า “รัก” กตัญญูต่อพ่อแม่ มีหลายอย่างที่อยากบอกพ่อและแม่ถึงแม้ครอบครัวเราจะไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นแต่เราก็มีความสุขได้ ดิฉันเคยแอบคิดว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีใครรัก คิดมาตลอดเวลา 6 ปีเต็มว่าพ่อไม่รัก พ่อรักครอบครัวโน้นมากกว่าครอบครัวเรา เคยคิดเถียงเคยอยากตัดขาดพ่อเสมอ แต่พอมาที่วัดนี้มันทำให้คิดได้ว่าพ่อคือคนที่รักเรามากที่สุดแล้ว ขอบคุณคณะวิทยากรทุกท่านมากที่ทำให้คิดได้ในทุกๆ เรื่องอีกครั้ง วนิชพร สอนดี ม.5/1 รร.บัวลาย กิจกรรมซ้ำๆ แต่ใจไม่เหมือนเดิม ก่อนที่ดิฉันจะมาวัดวะภูแก้ว ดิฉันมีความรู้สึกว่าทำไมต้องมา? ทำไมต้องเข้าวัด? เพราะดิฉันเข้าใจว่าเด็กวัยรุ่นอย่างดิฉันควรอยู่บ้าน อ่านหนังสือการ์ตูน ดูละคร เล่นเกมสิ ไม่ใช่เข้าวัดเหมือนคนแก่ และชีวิตวัยรุ่นยังมีข่าวสารที่เราคิดว่าสำคัญ เช่น เรื่องความรักของคนอื่น หรือในโพสต์ของเพื่อนที่โพสต์ว่าอยากนั่นอยากนี่ แต่เราไม่เคยลองอ่านข่าวที่สำคัญจริงๆ เช่น ข่าวบ้านเมือง ข่าวโลก เพราะเราคิดว่ามันไกลตัว วันแรกของการเข้าวัดดิฉันได้นั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา ดูวิดีโอแต่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระที่ดิฉันเคยดูมาก่อน นั่งสมาธินานไม่เคยคิดว่าตัวเองจะนั่งได้นานขนาดนี้ แต่ละวันทำกิจกรรมซ้ำๆ เดิมๆ แต่ใจ “ไม่เหมือนเดิม" วันสุดท้ายดิฉันคิดคำได้ว่า “มาแบบมืด กลับแบบสว่าง” หรือ หน้ามือเป็นหลังมือ ชฎาธาร ไม้เกตุ ม.4/4 รร.ครบุรี กราบแรกตอนพ่อตาย ♥♥ ยอมรับเลยว่าตอนแรกไม่ได้อยากมาเข้าค่ายเลย คิดว่าน่าเบื่อมาก ต้องทรมานแน่ๆ พอฉันมาถึงก็เจอ ดร. คนหนึ่ง พูดเยอะมาก ขี้โม้มาก แต่ว่า ดร.คนนี้ทำให้ฉันได้คิดว่า การมาครั้งนี้จะต้องได้อะไรกลับไป ดร.ได้พูดถึงพระคุณพ่อแม่ให้ทราบก่อนที่จะสายเกินไป พ่อของฉันชอบเมา ชอบกินเหล้า จึงทำให้ฉันไม่เคยนึกถึงพ่อเลย ฉันรู้สึกว่าพ่อไม่เคยรักฉันด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดที่จะกราบเท้าท่าน จนวันหนึ่ง ท่านได้ล้มลงเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์พ่อก็เสียชีวิต ฉันเสียใจมากร้องไห้ทั้งวันไม่หยุด ฉันได้แต่กราบลาหน้าโลงศพของท่านโดยไม่มีโอกาสที่จะได้กราบเท้าท่านให้ท่านเห็นให้ท่านชื่นใจว่าลูกคนนี้ได้กราบเท้าท่าน ไม่เคยที่จะได้ทำให้ท่านมีความสุขได้ในตอนที่ท่านอยู่ ฉันเสียใจ ถ้ามีโอกาสฉันคงจะกลับไปกราบเท้าท่านกอดท่านบอกรักท่าน ฝากถึงคนที่ไม่เคยจะกราบเท้าพ่อแม่ ให้กลับไปกราบเท้าท่านก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กราบเท้าท่าน ไม่ได้บอกรักท่าน ทำดีเพื่อท่านก่อนที่จะไม่ได้ทำ ขอบคุณ ดร. ที่ทำให้คิดได้และทำให้ฉันดีขึ้น อนงค์นาถ ขึ้นด่านกลาง ม.4/8 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม มีบุญเหลือเกิดที่ได้มาวัดนี้ ♥♥ ฉันเป็นเด็กนิสัยไม่ดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ฉันอยู่ในครอบครัวถือว่าฐานะดีเลยล่ะ จึงเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ ถ้าไม่ได้ตามที่ขอฉันจะทำกิริยาไม่ดีใส่ มีครั้งหนึ่ง ฉันขอเงินแม่เพื่อไปซื้อเสื้อผ้าสิ่งของตามที่ฉันอยากได้ แม่ตอบมาว่า เดือนนี้แม่ตกงานอยู่ ขอเป็นเดือนหน้าหรือวันที่แม่มีเงินก่อนได้ไหม ตอนนั้นฉันอารมณ์เสียมาก ฉันจึงบอกแม่ไปว่า ถ้าไม่ให้ก็ไม่ต้องให้อีกหรอก ดูคนอื่นเขาได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ฉันรู้ว่าฉันเลวมากที่พูดกับแม่อย่างนั้น แม่ร้องไห้เพราะฉันบ่อยๆ แต่ฉันยังไม่ค่อยรู้สึกหรือมีจิตสำนึกเท่าไร แต่ตอนที่ทะเลาะกับแม่ฉันขอโทษแม่ทุกครั้ง แม่จึงบอกว่า “หนูจะเลวจะด่าแม่อย่างไรแม่ก็ไม่มีวันโกรธหนูหรอกลูก” แล้วจนวันนี้ที่ฉันได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ฉันจึงรู้ว่า ขึ้นชื่อว่า “แม่” ให้อภัยลูกเสมอ รักลูกเสมอ วัดนี้ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า “ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่” การได้มาวัดวะภูแก้วนั้นมีบุญเหลือเกิน จารุพร โนนทอง ม.4/2 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม ย่าจะไม่เหนื่อยและเสียน้ำตาเพราะหนูอีกแล้ว ♥ หนูเป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เด็กๆ ท่านทิ้งหนูให้อยู่กับย่าและปู่และพี่ชาย เรามีกันอยู่เพียง 4 คน พอหนูโตขึ้นประมาณ ม.2 หนูก็ดื้อก็เกเรเหลวไหลชอบเที่ยวกลางคืน สองสามวันจะกลับบ้านอีกครั้ง พอหนูมาถึงบ้านย่าชอบถามนั่นถามนี่ หนูรำคาญมากเลยตะคอกใส่ย่าและด่าย่า แล้วย่าก็เดินหนีไปแอบร้องไห้คนเดียว จนมาวันหนึ่งมีเพื่อนชวนสูบยา ด้วยความที่หนูอยากรู้อยากลองหนูก็เลยสูบ สูบไปเรื่อยๆ และกินเหล้าจนเมาแล้วค่อยแยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงบ้านประมาณเที่ยงคืน ก็เห็นย่านั่งรอหนูแต่หนูไม่สนใจแถมยังต่อว่าย่าอีกด้วย วันนั้นเป็นวันที่หนูเห็นน้ำตาย่า หนูรู้สึกผิดต่อย่าและหนูก็เดินเข้าห้องไปนอนคิดว่าหนูทำอะไรไม่ดีบ้าง พอคิดหนูก็ร้องไห้ หนูรู้สึกผิดและสำนึกมากๆ หนูก็ยังไม่เลิกทำนิสัยเก่า พอมาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้วหนูก็สำนึกผิด กลับบ้านไปหนูจะกราบเท้าย่าและขอโทษท่าน และหนูจะไม่ทำให้ย่าเสียใจอีก จะเป็นเด็กดีและจะเชื่อฟังย่า จะไม่ตะคอกใส่ย่า จะช่วยทำงานบ้าน จะทำทุกอย่างแทนย่าทั้งหมดเพราะย่าเหนื่อยกับหนูมาเยอะแล้ว หนูจะไม่ให้ย่าเหนื่อยอีกต่อไป คันธารัตน์ หอมดวง ม.4/5 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม ลูกขี้ขอจะทำตัวใหม่ ♥♥ หนูเป็นลูกที่กำพร้าแม่มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แม่หนูได้จากหนูไปจากโลกนี้ไปแล้ว หนูคิดถึงแม่เสมอ หนูหวังว่าสักวันแม่อาจจะมาเข้าฝันหนู หนูอยากรู้ว่าแม่เป็นอย่างไร แม่สบายดีอยู่ไหม แม่ทุกข์อยู่ไหม แม่ได้ไปสู่สุคติหรือยัง ตอนนี้หนูอาศัยอยู่กับป้า ป้าที่เปรียบเสมือนแม่ของหนู ส่วนพ่อของหนูไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่หนูรู้ความมา พอถึงวันเกิดหนู หนูก็จะขอของขวัญวันเกิดจากพ่อ บ้างก็ขอเงินเพื่อจัดงานวันเกิด บ้างก็ขอโทรศัพท์เครื่องใหม่ มีอยู่ปีหนึ่งหนูโทรไปหาพ่อเพื่อขอของขวัญวันเกิด และพ่อก็บอกว่า “พ่อไม่มีเงิน” และหนูก็บอกว่า “หนูต้องได้ของขวัญวันเกิด” และพ่อบอกว่า “เดี๋ยวรอพ่อหาเงินให้ได้ก่อน” และหนูหรือพ่อโทรหากันทีไร หนูก็ชอบทวงของขวัญวันเกิดกับพ่อ ตั้งแต่หนูเกิดมาหนูเคยกราบพ่อแค่ครั้งเดียวเอง เพราะพ่อท่านมาหาได้ปีละครั้งสองครั้ง พ่อหนูทำงานขับรถรับจ้างสามล้อ และในวันเทศกาลท่านก็ไม่ได้กลับมาบ้าน หนูก็คิดอยู่ในใจว่า “พ่อไม่ชอบมาบ้านเลย” หนูเหมือนเด็กกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่เลย เหมือนพ่อไม่สนใจหนู ไม่เป็นห่วง ไม่ห่วงใยลูกคนนี้เลยหรือ แต่ในทุกๆ เดือนพ่อจะส่งเงินมาให้เดือนละ 2,000 หนูก็คิดน้อยใจพ่ออยู่ และปัจจุบันนี้หนูอยู่กับป้า หนูก็อยู่สุขสบายดี ในบางครั้งป้าท่านอาจด่าอาจว่า จนทำให้หนูท้อแท้นึกถึงพ่อนึกถึงแม่ พอมาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ได้เรียนรู้เรื่องพระคุณพ่อแม่ ก็ทำให้หนูนึกถึงการกระทำของตนเองในวันเกิด หนูมีแต่ขอๆ พ่อ อยากได้อะไรก็ขออย่างเดียว ไม่เคยนึกเลยว่าท่านจะเหนื่อยไหม และตอนนี้หนูรู้แล้ว สำนึกแล้วและจะทำตัวใหม่ ทำตัวเป็นลูกที่ดี หนูขอสัญญา ปาริชาติ ป่าขมิ้น ม.4/2 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม เด็กหลงผิดได้สำนึก ♥♥ คนเราเกิดมาย่อมมีชีวิตที่แตกต่างกัน อยู่ที่เวรหรือกรรมของบุคคลคนนั้น การเกิดมาในครั้งหนึ่งโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องเกิดมาเป็นลูกของผู้หญิงและผู้ชายสองคนนี้ ตลอดระยะเวลาเราสามคนพ่อแม่ลูกไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เพราะพ่อและแม่ต้องไปทำงานที่อื่น ทำให้นานๆ ครั้งถึงจะได้กลับมาหาฉัน เมื่อเริ่มโตความคิดก็เริ่มเปลี่ยน คิดไปต่างๆ นานาว่าพ่อแม่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเลี้ยงดูเรา เขาแค่ทำไปเพราะผิดพลาด ทุกครั้งที่พ่อและแม่กลับมาหาฉันนั้น ฉันไม่เคยที่จะเข้ามาหาหรือแสดงความรักให้กับท่านสักเท่าไร เพราะเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ เมื่อมีคนถามถึงสารทุกข์สุกดิบของพ่อและแม่ ฉันจะรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกอึดอัดใจที่ท่านไม่ค่อยเอาใจใส่ฉันสักเท่าไหร่ จนวันหนึ่งฉันได้มีโอกาสมาเข้าค่ายธรรมะ ณ วัดวะภูแก้ว ทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไป ฉันสำนึกผิดอย่างมาก การเข้าค่ายครั้งนี้ให้อะไรหลายอย่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต ขอขอบคุณที่ทำให้คนหลงผิดคนนี้สำนึกผิดได้ ภาณิดา วงษ์บ้านคู่ ม.4/6 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม ทำไมจึงทำกับแม่อย่างนี้ ♥ แต่ก่อนผมเป็นเด็กไม่ดี (มากๆๆ) แต่ละวันมีแต่คำว่าเที่ยวๆ ไม่เคยเข้าเรียน จนติด 0 และ มส. พอแม่รู้แม่เสียใจมากครับ ทุกวันๆ แม่จะถามผมว่าแก้เสร็จหรือยังลูก ถามอยู่ทุกวัน ผมก็ผัดวันประกันพรุ่ง บอกแม่ว่าอาจารย์ยังไม่นัด อาจารย์ไม่ว่าง จนสอบจบ ม.3 เตรียมขึ้น ม.4 ผมก็ยังแก้ไม่เสร็จ แม่ก็ให้ผมไปหาอาจารย์ทุกวันจนแก้เสร็จ ผมเห็นสีหน้าของแม่ทุกๆ วันว่าสีหน้าของแม่ดูไม่มีความสุขเลย ผมเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง ผมก็ทำได้นะ แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก แค่ไม่โดดไม่ค่อยเที่ยวก็แค่นี้ พอได้มาที่วัดวะภูแก้ว ทำให้ผมว่าการที่ผมทำอย่างนี้กับแม่มันผิด ได้มานั่งสมาธิทำให้จิตใจของผมดีขึ้น และสิ่งที่ผมคิดอยู่เป็นประจำคือทำไมจึงทำกับแม่แบบนี้ ต่อไปนี้จะเอาแนวทางความดีจากวัดวะภูแก้วไปทำตามเพ่อจะทำให้ครอบครัวมีความสุข จักรพันธ์ เอือจันทร์ ห้อง ปวช.1 รร.ห้วยแถลงพิทยาคม ได้คิดจากการอ่านเรื่องของ “ขจร” ♥ การที่ข้าพเจ้าได้มาอบรมที่นี่ ตอนแรกก็ไม่อยากมาแต่อาจารย์บังคับ หนูก็ไม่พอใจว่ามาหลายวัน เพราะไม่อยากฝากโทรศัพท์ พอมาถึงวันแรก ก็โอโห! เบื่อ ปวดหลัง ปวดขา อยากกลับบ้าน ตื่นก็เช้ามาก สวดมนต์แต่ละบทก็ยาว นั่งสมาธินาน หนูยังหลับ พอวันที่ 3-4 ก็ปรับตัวได้ นั่งสมาธินานได้ ไม่หลับ สวดมนต์ได้ไม่บ่น รู้สึกว่ามีสมาธิมากขึ้น ไม่หลุดไม่หล่น ตั้งใจฟังมากขึ้น นั่งคุยกับเพื่อนน้อยลง และได้อ่านหนังสือเรื่องของขจร* แล้วได้เรียนรู้จึงเป็นคติเตือนใจอย่างมาก ขจรเป็นคนดีแต่คบเพื่อนไม่ดีและเชื่อเพื่อนมากทำให้ต้องเสียทั้งอนาคตและเสียชีวิตในที่สุด และดิฉันจะไม่ทำเหมือนขจร ขจรแค่ผิดพลาดครั้งเดียวแล้วมีคือทุกข์และเจ็บปวดที่สุด ดิฉันชอบหนังสือเล่มนี้มาก *หนังสือเรื่อง “เด็กหญิงของเรา” เขียนโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข ซึ่งจัดให้เด็กฝึกสมาธิในการอ่าน สุดารัตน์ ศรอินทร์ ม.5/3 ร.ร.พระทองคำวิทยา รู้แล้วว่าแม่ไม่เคยรังเกียจลูก ก่อนมาวัดวะภูแก้ว หนูเถียงพ่อเถียงแม่ เวลาแม่สอนหนูชอบหนีออกจากบ้าน กลับมาก็เกือบ 5 โมงเย็น บางครั้งหนูคิดว่าแม่ไม่เคยรักหนู แม่รักแต่น้อง เวลามีตลาดนัดหนูชอบขอเงินแม่ บอกแม่ว่าไปทำงานกับเพื่อน ถ้าหนูไม่ส่งงานหนูจะติด 0 – ม.ส. แม่ก็ให้เงินหนู หนูบอกแม่ว่าเงินแค่นี้มันจะพออะไร แม่ก็บอกให้ใช้ประหยัด หนูก็โยนเงินใส่หน้าแม่ แม่ร้องไห้ หนูก็ไม่สนใจเพราะคนที่เสียใจมันต้องเป็นหนู พ่อกับแม่เลิกกันตอนมีน้อง หนูว่าน้องว่า “อีตัวซวย” แต่แม่บอกว่าน้องไม่ผิด แม่ผิดเอง หนูก็ไม่เข้าใจกับคำคำนี้ แต่ตอนนี้หนูเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าแม่รักหนูรักน้อง ตอนเล็กๆ แม่ตามใจหนูมาตลอด แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าแม่ไม่เคยเกลียดลูก หนูอยากบอกอย่างหนึ่งกับแม่คือ หนูรักแม่ค่ะ หนูขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้และขอบคุณวัดที่ทำให้หนูคิดได้ ตอนแรกหนูก็ไม่อยากมาหรอก แต่พอมาหนูก็รู้ว่าวัดนี้ดีจริงๆ พลอยไพลิน มีชำนาญ ม.2/1 ร.ร.พระทองคำวิทยา พ่อแม่ทำงานหนักไม่เคยบ่น ตั้งแต่วันแรกหนูก็รู้สึกเบื่อไม่อยากนั่งสมาธิ ไม่อยากสวดมนต์ พอมาวันที่ 2 ก็รู้สึกเบื่ออีก อยากกลับบ้าน อยากนอน คิดอย่างเดียวคือมันน่าเบื่อ แต่ก็ทนจนเช้าวันที่ 3 ก็รู้สึกอะไรๆ ดีขึ้นไปหมดทุกอย่าง จากที่นั่งสมาธิไม่พอ 1-2 นาที กลับนั่งได้นานกว่าเดิม คิดอย่างเดียวเราต้องเอาบุญไปให้พ่อแม่เยอะๆ แล้วก็นึกถึงท่านทำงานเหนื่อยกว่าเราตั้งเยอะ เราแค่นั่งไม่กี่นาทีทำไมเราต้องบ่น ท่านทำงานหนักยังไม่เห็นบ่น ถึงวันที่ 3 ก็คิดว่านั่งสมาธิก็ดีเหมือนกัน มันไม่เห็นจะน่าเบื่อตรงไหนเลย ทำให้จิตสงบดี กุลรัตน์ คุณธรรม ม.1 ร.ร.กระเบื้องนอกพิทยาคม |